ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
บริษัท ซี.พี.ฟาซิลิตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด
- บททั่วไปเพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขใด ๆ ในอนาคต (“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัท ซี.พี.ฟาซิลิตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (“บริษัทฯ”) จึงจัดทำประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ของบริษัทฯ (“ประกาศฯ”) ฉบับนี้ขึ้น เพื่ออธิบายให้ท่านทราบถึงวิธีการที่บริษัทฯ ปฏิบัติต่อข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของท่าน หรืออาจจะระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) เช่น วิธีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือ การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม อาทิ การบันทึก การจัดระบบ การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยนหรือการดัดแปลง การเรียกคืน การส่ง การโอน การเผยแพร่หรือการทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใด ๆ การจัดเรียง การนำมารวมกัน การจำกัดหรือการห้ามเข้าถึง การลบหรือการทำลาย (“ประมวลผล”) และเพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
- ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลโดยสังเขปมีดังนี้
| ประเภท | รายละเอียด | แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล |
1. | ลูกค้า | บุคคลธรรมดาที่ซื้อสินค้าและหรือใช้บริการจากบริษัทฯ หรืออาจจะซื้อสินค้าและหรือใช้บริการจากบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นใดในลักษณะเดียวกัน เช่น ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้เข้าร่วมสัมมนา ผู้เข้าร่วมการประมูล ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน ผู้ที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลหรือขอรับบริการจากบริษัทฯ และผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับสินค้าและหรือบริการของบริษัทฯ เป็นต้น และให้หมายความรวมถึง บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือที่เป็นตัวแทนหรือบุคลากรของนิติบุคคลที่เป็นหรือที่อาจจะเป็นลูกค้าของบริษัทฯ และบุคคลธรรมดาที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าของบริษัทฯ www.cpfm.co.th/notice | · เมื่อท่านติดต่อสื่อสาร สอบถามข้อมูล ให้ความเห็น หรือคำติชม หรือส่งข้อร้องเรียนให้แก่บริษัทฯ ผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โทรศัพท์ อีเมล การพบปะกันโดยตรง หรือโดยวิธีการอื่นใด · เมื่อท่านแสดงเจตนาเพื่อซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากบริษัทฯ หรือเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ · เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด การจับสลากชิงโชค งานอีเว้นท์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ · การเก็บข้อมูลจากผู้ให้บริการต่าง ๆ ของบริษัทฯ เช่น ผู้ให้บริการและแอปพลิเคชัน ผู้ให้บริการ E-Commerce และผู้ให้บริการประชาสัมพันธ์และแนะนำสินค้า/บริการ · บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) คู่ค้าทางธุรกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ · ในบางกรณี บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยตนเองหรือได้ให้ความยินยอมแก่ผู้ใดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านก็ตาม |
2. | คู่ค้า | บุคคลธรรมดาที่คาดว่าจะเป็นหรือที่เป็นคู่ค้าของบริษัทฯ ทั้งในกรณีที่บุคคลดังกล่าวได้แสดงเจตนาจะเข้าทำสัญญา หรือที่เข้าเสนอราคาเพื่อขายสินค้าและหรือให้บริการแก่บริษัทฯ หรือที่จะลงทะเบียนหรือได้ลงทะเบียนเป็นคู่ค้าของบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นใดในลักษณะเดียวกัน และในกรณีที่บริษัทฯ เป็นฝ่ายเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยการตัดสินใจของบริษัทฯ เอง เช่น เกษตรกร พ่อค้าคนกลาง ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ วิทยากร ผู้ที่จะเข้าทำธุรกิจแฟรนไชส์ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการธุรกิจ คู่สัญญา หรือบุคคลอื่นใดในลักษณะเดียวกัน เป็นต้น และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องกับคู่ค้า หรือที่เป็นตัวแทนหรือบุคลากรของนิติบุคคลที่คาดว่าจะเป็นหรือที่เป็นคู่ค้าของบริษัทฯ และบุคคลธรรมดาที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับคู่ค้าของบริษัท www.cpfm.co.th/notice | · เมื่อท่านติดต่อ สอบถามข้อมูล ให้ความเห็น หรือคำติชม หรือส่งข้อร้องเรียนต่อบริษัทฯ ทางโทรศัพท์ อีเมล หรือโดยวิธีการอื่นใด · เมื่อท่านกรอกแบบฟอร์มต่าง ๆ ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือช่องทางอื่น · เมื่อท่านเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ และส่งมอบเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฏอยู่มาให้กับบริษัทฯ · เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรม งานอีเว้นท์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ของบริษัทฯ · บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) คู่ค้าทางธุรกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ · ในบางกรณี บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของท่าน หรือ แหล่งข้อมูลทางการค้า ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยตนเองหรือได้ให้ความยินยอมแก่ผู้ใดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านก็ตาม |
3. | กรรมการและบุคลากรของ | บุคคลธรรมดาซึ่งทำงานหรือปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ ให้กับบริษัทฯ และได้รับเงินเดือน ค่าจ้าง สวัสดิการ หรือค่าตอบแทนอื่นใดไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไรจากบริษัทฯ เช่น กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน บุคลากร ผู้ฝึกงาน หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องกับกรรมการและบุคลากรของบริษัทฯ และผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง เช่น บุคคลในครอบครัว (เช่น บิดา มารดา คู่สมรส และบุตร เป็นต้น) บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง (Reference Person) ผู้รับผลประโยชน์ และผู้ค้ำประกันการทำงาน เป็นต้น โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน · ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับกรรมการของบริษัทฯ www.cpfm.co.th/notice และ · ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรของบริษัทฯ www.cpfm.co.th/notice | · เมื่อท่านเข้าทำสัญญาจ้าง หรือสัญญาอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับบริษัทฯ หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัทฯ ในระหว่างกระบวนการสรรหา · เมื่อท่านส่งมอบเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่มาให้กับบริษัทฯ · บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) หรือหน่วยงานของรัฐ · ในกรณีที่ท่านเป็นกรรมการ บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่นหรือบุคคลภายนอก เช่น เลขานุการของท่าน หน่วยงานของรัฐ แหล่งข้อมูลสาธารณะ ที่ประชุมคณะกรรมการและหรือผู้บริหาร เป็นต้น · ในบางกรณี บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในสถานะบุคคลในครอบครัว บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน ผู้รับผลประโยชน์ หรือผู้ค้ำประกันการทำงานจากกรรมการหรือบุคลากร |
4. | ผู้สมัครงาน | บุคคลธรรมดาที่อาจได้รับคัดเลือกเป็นบุคลากรของบริษัทฯ โดยบุคคลดังกล่าวอาจเป็นผู้แสดงเจตนาด้วยตนเองเพื่อสมัครเป็นบุคลากรของบริษัทฯ หรืออาจเป็นกรณีที่บริษัทฯ เป็นฝ่ายเข้าเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานเอง และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน และผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครงาน เช่น บุคคลในครอบครัว บุคคลอ้างอิง และบุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรของบริษัทฯ www.cpfm.co.th/notice | · เมื่อท่านยื่นใบสมัครงาน ประวัติย่อ (Resume / Curriculum Vitae) และเอกสารประกอบการสมัครงานให้แก่บริษัทฯ ไม่ว่าโดยการ walk-in การสมัครงานที่บูธรับสมัครงาน หรือการสมัครงานผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ รวมถึงเมื่อท่านเข้าสัมภาษณ์งานกับทางบริษัทฯ · บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากเว็บไซต์สมัครงานของบุคคลภายนอก บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) บุคคลอ้างอิงของท่าน บริษัทจัดหางาน หน่วยงานของรัฐ สถานศึกษา หรือแหล่งข้อมูลจาก โซเชียลมีเดีย ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยตนเองหรือได้ให้ความยินยอมแก่ผู้ใดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังกล่าว · ในบางกรณี บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในสถานะบุคคลในครอบครัว หรือบุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน จากผู้สมัครงาน |
5. | ผู้ถือหุ้น | บุคคลธรรมดาซึ่งมีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ | · เมื่อท่านได้เข้าถือหุ้นของบริษัทฯ หรือส่งมอบเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่มาให้กับบริษัทฯ |
6. | บุคคลทั่วไป | บุคคลธรรมดาอื่นใดนอกเหนือจากบุคคลในประเภทข้างต้น ที่บริษัทฯ ได้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งในกรณีที่บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง หรือเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติจากการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ หรือได้รับมาจากบุคคลภายนอก เช่น ผู้ที่เข้าเว็บไซต์ของบริษัทฯ และผู้เข้ามาติดต่อ ณ สถานประกอบการของบริษัทฯ ซึ่งถูกบันทึกภาพโดยกล้องวงจรปิด (CCTV) เป็นต้น | · เมื่อท่านได้เข้าสู่เว็บไซต์ของบริษัทฯ ไม่ว่าโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม · เมื่อท่านถูกบันทึกภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวโดยกล้องวงจรปิด (CCTV) ซึ่งอยู่ในความควบคุมดูแลของบริษัทฯ |
- ในบางกรณีบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอัตโนมัติผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดู นโยบายการใช้
ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ในประกาศฯ ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และหรือ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน - ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ หากท่านไม่ประสงค์ให้บริษัทฯ เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวและเป็นกรณีที่บริษัทฯ อาศัยฐานความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯ เพื่อขอยกเลิกความยินยอม ตามช่องทางการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 8 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับมาจากแหล่งอื่นหรือบุคคลภายนอก อาจจำแนกได้โดยสังเขปดังนี้
- ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด สถานที่เกิด อายุ เพศ น้ำหนัก ส่วนสูง เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง รูปถ่าย ภาพถ่าย ลายมือชื่อ สัญชาติ สถานภาพสมรส สถานภาพทางทหาร และทะเบียนรถยนต์ เป็นต้น
- ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน สถานที่จัดส่งสินค้า สถานที่จัดส่งใบแจ้งหนี้ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล และไอดีผู้ใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ (เช่น Line ID, WeChat ID, WhatsApp ID) เป็นต้น
- ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ประกอบธุรกิจ (อาทิ ชื่อ สถานที่ตั้ง และข้อมูลการติดต่อ เป็นต้น) เลขทะเบียนรถยนต์ ประเภทของรถยนต์ แผนที่ พิกัดละติจูดและลองติจูดของฟาร์ม และเงื่อนไขการค้า เป็นต้น
- ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อขาย เช่น รหัสลูกค้า รหัสคู่ค้า รายละเอียดการสั่งซื้อ (อาทิ สินค้าที่ต้องการ จำนวน และคุณภาพ) รายละเอียดของสินค้าที่ต้องการ (อาทิ น้ำหนักสุทธิ และคุณภาพของวัตถุดิบ) รายละเอียดการร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้า (อาทิ วันที่สั่งซื้อสินค้า ประเภทสินค้า สาขาที่เกี่ยวข้อง และปัญหาที่พบ) เลขที่ใบรับสินค้าชั่วคราว รายละเอียดการส่งสินค้าและวัตถุดิบ และเลขที่ตรวจสอบย้อนกลับ (ระบบ Traceability) เป็นต้น
- ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน เช่น จำนวนเงิน วงเงินสินเชื่อ เงื่อนไขการชำระเงิน ข้อมูลบัญชีธนาคาร ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาสมุดบัญชีธนาคาร ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี เช็คและต้นขั้วเช็ค ใบสำคัญการจ่าย ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญรับเงิน และใบหักบัญชีเงินฝาก เป็นต้น
- ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมหรือนิติกรรมต่าง ๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน ข้อมูลการตรวจลงตรา (Visa) สำเนาใบอนุญาตทำงาน (Work permit) สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล สำเนาใบสำคัญการเกณฑ์ทหาร สำเนาทะเบียนสมรส สำเนาสูติบัตร สำเนาใบขับขี่ สำเนาทะเบียนรถ สำเนาหนังสือรับรองบริษัท สำเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม แผนที่ สำเนาเอกสารสิทธิที่ดิน เอกสารหลักประกัน (อาทิ หนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร (Bank Guarantee) หนังสือค้ำประกันโดยบุคคล) สัญญาซื้อขายหรือสัญญาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม ใบขอเปิดหน้าบัญชีลูกค้า ใบส่งสินค้า สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือธุรกิจต่าง ๆ แบบแจ้งขออนุมัติเงินเดือนพนักงานใหม่และบรรจุเป็นรายเดือน ใบรับรองแพทย์ ผลตรวจร่างกายก่อนเข้าทำงาน แบบระบุนามผู้รับผลประโยชน์ แบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน ใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุนสํารองเลี้ยงชีพ สัญญาจ้างงาน หนังสือค้ำประกันการทำงานและเอกสารที่เกี่ยวข้อง (อาทิ หนังสือรับรองตำแหน่ง สำเนาบัตรข้าราชการของผู้ค้ำประกันการทำงาน (หากมี) หนังสือรับรองเงินเดือน สำเนาทะเบียนการค้า หรือเอกสารจัดตั้งบริษัทที่มีชื่อผู้ค้ำประกันการทำงานเป็นเจ้าของหรือเป็นหุ้นส่วน) ข้อตกลงการว่าจ้างกรรมการ (Directorship Agreement) สัญญาบริหารจัดการ (Management Agreement) และหนังสือมอบอำนาจ เป็นต้น
- ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา การฝึกอบรม หรือทักษะความสามารถต่างๆ เช่น ประวัติการศึกษาและการฝึกอบรม หนังสือรับรองคุณวุฒิ ใบแสดงผลการศึกษา ความสามารถทางด้านภาษา ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ ทักษะการพิมพ์ดีด ข้อมูลการอบรมและข้อมูลการทดสอบ และกิจกรรมที่เข้าร่วมระหว่างการศึกษา เป็นต้น
- ข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครงาน เช่น ประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน ประวัติย่อ (Resume / Curriculum Vitae) ตำแหน่งที่สมัคร เงินเดือนที่คาดหวัง ข้อมูลที่ได้รับจากการสัมภาษณ์งาน หลักฐานหรือหนังสืออ้างอิงต่าง ๆ งานอดิเรก และข้อมูลที่ปรากฏในแบบประเมินผลการสัมภาษณ์ (อาทิ ผลการประเมิน ความรู้และประสบการณ์การทำงาน คุณลักษณะส่วนบุคคล การทำงานร่วมกับผู้อื่น และศักยภาพ) เป็นต้น
- ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการประเมินผล เช่น รหัสประจำตัวพนักงานหรือบุคลากร ตำแหน่ง แผนก หรือฝ่ายงานที่สังกัด สายการบังคับบัญชา ผลการประเมินผลการปฏิบัติงาน พฤติกรรมในการทำงาน ผลงานและหรือรางวัลที่เคยได้รับ ข้อมูลการได้รับการฝึกอบรมทั้งภายในและภายนอกบริษัท ข้อมูลการลงโทษทางวินัย ข้อมูลที่ปรากฏในหนังสือโอนย้ายบุคลากรข้ามบริษัท สัญญายืมตัวบุคลากร หนังสือเลิกจ้าง ใบลาออกจากการเป็นพนักงานหรือบุคลากร และเหตุผลที่ลาออก เป็นต้น
- ข้อมูลเกี่ยวกับค่าตอบแทนและผลประโยชน์ เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง ผลตอบแทน โบนัส รายละเอียดเกี่ยวกับค่าบำเหน็จ สวัสดิการ ข้อมูลบัญชีธนาคาร ข้อมูลของผู้ค้ำประกันการทำงาน ข้อมูลของผู้รับผลประโยชน์ ข้อมูลเกี่ยวกับการประกันสังคม ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ข้อมูลด้านภาษีอากร ข้อมูลการหักลดหย่อนภาษี ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพและหรือผลประโยชน์อื่น ๆ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในใบรับรองแพทย์ รายงานผลการตรวจสุขภาพประจำปี แบบแจ้งการลาคลอด แบบเบิกเงินยืมสวัสดิการ หนังสือยินยอมให้หักเงินเดือน ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ แบบการเรียกค่าสินไหมทดแทน (สำหรับการประกันอุบัติเหตุ และประกันชีวิต) และแบบขออนุมัติผลประโยชน์เมื่อพ้นสภาพบุคลากรสำหรับการเกษียณอายุ เป็นต้น
- ข้อมูลเกี่ยวกับสถิติทางทะเบียน เช่น วันที่เริ่มงาน วันครบกำหนดทดลองงาน วันและเวลาที่เข้าทำงาน จำนวนชั่วโมงที่ทำงาน จำนวนชั่วโมงที่ทำงานล่วงเวลา วันหยุดพักผ่อนประจำปี วันลา แบบแจ้งการลา รายละเอียดการลารวมถึงสาเหตุการลา บันทึกการเข้าออกบริษัทฯ และบันทึกการใช้ระบบต่าง ๆ ของบริษัทฯ เป็นต้น
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น ศาสนา เชื้อชาติ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ และข้อมูลชีวภาพ (อาทิ ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลจำลองภาพใบหน้า) เป็นต้น
- ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น
- ข้อมูลอื่น ๆ เช่น พฤติกรรมหรือแนวโน้มในการซื้อสินค้าและหรือบริการ บันทึกเสียงการสนทนา และบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) เป็นต้น
- วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมายโดยสังเขปมีดังนี้ (รวมกันเรียกว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด”)
ลำดับ | วัตถุประสงค์ที่กำหนด | ฐานทางกฎหมายในการประมวลผล |
1. วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าและให้บริการแก่ลูกค้า ตลอดจนการดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | ||
1. | เพื่อการลงทะเบียนสมัครสมาชิก หรือเปิดบัญชีลูกค้า | · ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของลูกค้า สำหรับการลงทะเบียนสมัครสมาชิกเป็นลูกค้ารายใหม่หรือการเปิดบัญชีลูกค้า · ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: ในกรณีที่ลูกค้าเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ |
2. | เพื่อการดำเนินการเข้าทำสัญญา ซื้อขายสินค้าและบริการ | · ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเป็นการจำเป็นเพื่อการเข้าทำสัญญา และกระบวนการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าทำสัญญา · ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: ในกรณีที่ลูกค้าเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การบริหารจัดการสัญญา และการพิจารณาคุณสมบัติลูกค้า เป็นต้น |
3. | เพื่อการบริหารจัดการคำสั่งซื้อจากลูกค้า จัดเตรียมสินค้าและหรือบริการ และดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง | · ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาซื้อขายและบริการ ซึ่งลูกค้าเป็นคู่สัญญา เช่น การจัดเตรียมจัดส่งสินค้า การวางบิล การยืนยันยอดหนี้ค้างชำระ และการจัดส่งใบเสร็จรับเงินให้แก่ลูกค้า เป็นต้น · ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: ในกรณีที่ลูกค้าเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ |
2. วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างกับคู่ค้า การใช้บริการของผู้ให้บริการ และการดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | ||
1. | เพื่อการจัดซื้อจัดจ้าง การคัดเลือกคู่ค้า และการลงทะเบียนเป็นคู่ค้า | · ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอเข้าเสนอราคาของคู่ค้าที่เสนอราคา ก่อนเข้าทำสัญญาซื้อขาย สัญญาให้บริการ หรือสัญญาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง การคัดเลือกคู่ค้า และการลงทะเบียนเป็นคู่ค้าของบริษัทฯ ตลอดจนการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง · ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: ในกรณีที่คู่ค้าเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคู่ค้าเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ · ฐานความยินยอม: ในบางกรณี บริษัทฯ อาจตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคู่ค้า หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคู่ค้า ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากบุคคลดังกล่าว |
2. | เพื่อการจัดทำสัญญา การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา และการบริหารจัดการสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับคู่สัญญาใด ๆ | · ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคู่สัญญาเป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของคู่สัญญาดังกล่าว ในการเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ และหรือการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาดังกล่าว · ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคู่สัญญา (หรือของบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือตัวแทนของคู่สัญญา ในกรณีที่คู่สัญญาเป็นนิติบุคคล) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการจัดทำและการบริหารจัดการสัญญาของบริษัทฯ เช่น การตรวจสอบคุณสมบัติของคู่สัญญา การติดต่อประสานงานกับคู่ค้าหรือตัวแทนของคู่ค้า เป็นต้น |
3. วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ และกิจกรรมทางการตลาด | ||
1. | เพื่อการติดต่อสื่อสารกับท่าน | · ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการติดต่อสื่อสารกับท่าน เกี่ยวกับการขายสินค้าและการให้บริการต่าง ๆ ของบริษัทฯ |
2. | เพื่อการประชาสัมพันธ์และกิจกรรมทางการตลาดของบริษัทฯ | · ฐานความยินยอม: การที่บริษัทฯ จะดำเนินกิจกรรมทางการตลาดใด ๆ เช่น การตลาดแบบตรง การส่งข้อความเกี่ยวกับการสื่อสารทางการตลาดให้แก่ท่าน การขอถ่ายภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวของท่านเพื่อนำไปประมวลภาพและประชาสัมพันธ์กิจกรรมการตลาดตามช่องทางสื่อต่าง ๆ บริษัทฯ จะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากท่าน |
3. | เพื่อการสำรวจพฤติกรรม การวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่น ๆ ของท่าน เพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัทฯ หรือเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด | · ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่น ๆ เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจและการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัทฯ เช่น การปรับปรุงเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่น ๆ การพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ ตลอดจนการแก้ไขข้อบกพร่องและปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ · ฐานความยินยอม: ในกรณีที่บริษัทฯ เข้าขอสัมภาษณ์ สังเกตพฤติกรรม และหรือเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่น ๆ ของท่าน เพื่อนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมและทำโฆษณาแบบเจาะจงตามพฤติกรรมของท่านหรือทำการตลาดแบบตรง หรือในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากท่าน |
4. วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล | ||
1. | เพื่อการรับสมัครงาน คัดเลือกผู้สมัครงาน การสัมภาษณ์ และการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรับสมัครงาน | · ฐานสัญญา: การประมวลผลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน เป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการพิจารณาคำขอของผู้สมัครงาน ที่ได้แสดงเจตนาสมัครงานเพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกบุคลากรของบริษัทฯ เช่น การพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครงาน และการนัดสัมภาษณ์งาน เป็นต้น · ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการพิจารณาและตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครงาน · ฐานความยินยอม: ในกรณีที่บริษัทฯ จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานจากบุคคลภายนอก เช่น เว็บไซต์รับสมัครงาน หรือบริษัทจัดหางาน (Recruiter) โดยการตัดสินใจของบริษัทฯ เอง (Own Initiative) เพื่อเสนอตำแหน่งงานให้แก่ผู้สมัครงาน บริษัทฯ จะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากผู้สมัครงาน ซึ่งอาจดำเนินการผ่านทางบุคคลภายนอกดังกล่าวที่เป็นผู้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานให้แก่บริษัทฯ นอกจากนี้ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของผู้สมัครงาน เช่น ประวัติอาชญากรรม ความพิการ และข้อมูลสุขภาพ เพื่อการพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครงาน บริษัทฯ จะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากผู้สมัครงาน |
2. | เพื่อการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน และการบรรจุบุคลากรเข้าทำงาน รวมถึงการกระบวนการสรรหาและการแต่งตั้งกรรมการ | · ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานหรือบุคลากร เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินการเข้าทำสัญญาจ้าง และสัญญาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นก่อนการเข้าทำสัญญาดังกล่าว ในกรณีของกรรมการ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการเป็นการจำเป็นสำหรับบริษัทฯ ในการแต่งตั้งกรรมการ หรือเข้าทำสัญญาหรือข้อตกลงการว่าจ้างกรรมการ (Directorship Agreement) สัญญาบริหารจัดการ (Management Agreement) สัญญาแต่งตั้ง และสัญญาอื่น ๆ ซึ่งกรรมการเป็นคู่สัญญา เป็นต้น · ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรเป็นการจำเป็นในการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ เช่น การตรวจสอบและพิจารณาคุณสมบัติของบุคลากร เพื่อบรรจุบุคลากรเข้าทำงานในตำแหน่งที่เหมาะสม เป็นต้น · ฐานความยินยอม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของบุคลากร เช่น ประวัติอาชญากรรม ความพิการ และข้อมูลสุขภาพ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมและทักษะความสามารถในการทำงาน และข้อมูลชีวภาพ (อาทิ ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ) เพื่อใช้ในการบันทึกเวลาการเข้าทำงาน บริษัทฯ จะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากบุคลากร |
3. | เพื่อการบริหารจัดการสวัสดิการและผลประโยชน์ให้แก่กรรมการ บุคลากร และบุคคลที่เกี่ยวข้อง | · ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและบุคลากร เป็นการจำเป็นสำหรับบริษัทฯ ในการปฏิบัติตามสัญญาจ้าง และสัญญาอื่น ๆ ซึ่งกรรมการหรือบุคลากร เป็นคู่สัญญา (แล้วแต่กรณี) · ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและบุคลากร และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรรมการและบุคลากร เป็นการจำเป็นต่อการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ เช่น การจัดสรรสวัสดิการและผลประโยชน์ของกรรมการและบุคลากร และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรรมการและบุคลากร · ฐานการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน และการประกันสังคม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและบุคลากร เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย การคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือการคุ้มครองทางสังคม · ฐานความยินยอม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของกรรมการและบุคลากร และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรรมการและบุคลากร เช่น ข้อมูลสุขภาพ เพื่อการบริหารจัดการการประกันภัยแบบกลุ่มหรือสวัสดิการอื่น ๆ บริษัทฯ จะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากกรรมการและบุคลากร และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรรมการและบุคลากร |
4. | เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการและบุคลากร ตามสัญญาจ้าง ข้อตกลงการว่าจ้าง สัญญาแต่งตั้ง หรือสัญญาอื่นใด ซึ่งเข้าทำกับบริษัทฯ (แล้วแต่กรณี) | · ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่หรือทำงานตามขอบเขตที่ระบุในสัญญาจ้าง ข้อตกลงการว่าจ้าง สัญญาแต่งตั้ง หรือสัญญาอื่นใด ซึ่งกรรมการหรือบุคลากรดังกล่าว ได้เข้าทำกับบริษัทฯ (แล้วแต่กรณี) · ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและบุคลากร เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ |
5. | เพื่อวัตถุประสงค์ในการจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส ค่าตอบแทน หรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ | · ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและบุคลากร เป็นการจำเป็นสำหรับการจ่ายค่าจ้าง เงินเดือน โบนัส ค่าตอบแทนและหรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ ตามสัญญาจ้าง และสัญญาอื่น ๆ ซึ่งกรรมการหรือบุคลากร เป็นคู่สัญญา (แล้วแต่กรณี) · ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย: ในบางกรณี การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและบุคลากร และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรรมการและบุคลากร เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ เช่น การหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร เป็นต้น |
5. วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการบริหารจัดการหุ้นของบริษัทฯ | ||
1. | เพื่อการบริหารจัดการหุ้นของบริษัทฯ ตามกฎหมาย และดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น | · ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้น เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ เพื่อการจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นหรือกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้น การตรวจสอบ และการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น เป็นต้น · ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้นเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมมีความจำเป็นต่อการตรวจสอบและดำเนินการจัดการต่าง ๆ เกี่ยวกับสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น |
6. วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือใช้บังคับกับบริษัทฯ และการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย | ||
1. | เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของศาล หน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง | · ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย: เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งบังคับใช้กับบริษัทฯ เช่น กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม กฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กฎหมายภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ · ฐานการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข: ในบางกรณี การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน (อาทิ การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาด |
2. | เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย | · ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ในขั้นตอนต่าง ๆ ตามกฎหมาย เช่น การสอบสวนและหรือการไต่สวนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ การเตรียมคดี การดำเนินคดี และหรือการต่อสู้คดีในชั้นศาล เป็นต้น |
7. วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตรวจสอบยืนยันตัวตน และการรักษาความมั่นคงปลอดภัย | ||
1. | เพื่อการตรวจสอบยืนยันตัวตนของท่าน | · ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการตรวจสอบยืนยันตัวตนของท่าน ก่อนเข้าทำธุรกรรมหรือดำเนินการใด ๆ กับบริษัทฯ หรือบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น · ฐานความยินยอม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่ปรากฏอยู่บนสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน เช่น ศาสนาและหรือหมู่โลหิต ในขั้นตอนการตรวจสอบยืนยันตัวตนของท่าน โดยไม่อาจปิดทับ ขีดคาด หรือหลีกเลี่ยงการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวได้ บริษัทฯ จะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากท่าน |
2. | เพื่อการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคล และ ทรัพย์สินของบริษัทฯ และของบุคคลทั่วไป | · ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบดูแล ป้องกัน หรือระงับเหตุการณ์ใด ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล · ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินของบริษัทฯ และของบุคคลทั่วไป เช่น การใช้ภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อป้องกันการสูญหาย หรือเสียหายในทรัพย์สินของบริษัทฯ และของบุคคลทั่วไป เป็นต้น |
8. วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ และวัตถุประสงค์อื่น ๆ | ||
1. | เพื่อการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็น และเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ หรือบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น | · ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ในการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็น และหรือเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ หรือบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน |
2. | เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ | · โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมตามประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทตามลิงก์ที่ระบุไว้ในข้อ 2 ของประกาศฯ ฉบับนี้ บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์อื่นใดอันเป็นเหตุให้บริษัทฯ ต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในประกาศดังกล่าว หรือเมื่อบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์เดิมที่กำหนดไว้ในประกาศดังกล่าว ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน |
- เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดตามข้อ 4.1 ข้างต้นในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน เป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัทฯ อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ (แล้วแต่กรณี) ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการซื้อขายหรือการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับท่าน หรือปฏิเสธการให้สวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับท่าน (แล้วแต่กรณี) ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
- ในกรณีที่บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะ และหรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้นและหรือวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทตามลิงก์ที่ระบุไว้ในข้อ 2 ของประกาศฯ ฉบับนี้ บริษัทฯ จะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และหรือมีหนังสือไปยังท่านเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว โดยท่านควรอ่านนโยบายหรือประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้ และหรือหนังสือดังกล่าว (แล้วแต่กรณี)
- การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้
- บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง และหรือบุคลากรภายในของบริษัทดังกล่าวเท่าที่เกี่ยวข้อง และตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทฯ ในการให้บริการต่าง ๆ เช่น การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการบันทึกข้อมูล บริการชำระเงิน บริการรับส่งไปรษณีย์และพัสดุ บริการจัดพิมพ์ บริการรักษาความปลอดภัย บริการจัดทำเงินเดือน บริการด้านสุขภาพ บริการประกันภัย บริการการฝึกอบรม บริการวิเคราะห์ข้อมูล บริการทำการวิจัย บริการจัดเก็บเอกสาร การทำการตลาด หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ อาทิ ธนาคารพาณิชย์ โรงพยาบาล บริษัทประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัย เป็นต้น
- ที่ปรึกษาของบริษัทฯ เช่น ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี นักคณิตศาสตร์ประกันภัย หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายในและภายนอกของบริษัทฯ เป็นต้น
- ศาลและหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ สำนักงานประกันสังคม กรมการปกครอง กรมสรรพากร กรมศุลกากร กรมการค้าภายใน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมปศุสัตว์ สัตวแพทยสภา กรมประมง กรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สถานกงสุลไทยในต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นต้น
- ลูกค้า คู่ค้า หรือคู่สัญญาของบริษัทฯ ที่ท่านเป็นผู้ติดต่อสื่อสารหรือเกี่ยวข้องกับหน้าที่หรือตำแหน่งของท่าน หรือบุคคลอื่นใดในลักษณะเดียวกัน
- บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ เช่น การเปิดเผยการประมวลภาพกิจกรรมตามช่องทางสื่อต่าง ๆ ของบริษัทฯ ให้แก่ประชาชนทั่วไป
- การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านก่อน
- ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น บริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอหรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณี บริษัทฯ อาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว
- ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ และโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติของบริษัทฯ และของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลา[ไม่เกิน 10 ปี] นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ สิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าวหากกฎหมายอนุญาตหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของบริษัทฯ
หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บหรือระบบของบริษัทฯ และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัทฯ (ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีที่บริษัทฯ สามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯ ตามช่องทางการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 8 ของประกาศฯ ฉบับนี้
- สิทธิต่าง ๆ ของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯ ตามช่องทางการติดต่อในข้อ 8 ของประกาศฯ ฉบับนี้
- สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
- สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
- สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
- สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านอาจขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
- สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
- สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
- สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม
ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฯ ของท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้
- สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน
หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัทฯ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัทฯ โดยใช้ช่องทางการติดต่อตามข้อ 8 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบริษัทฯ ได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
- วิธีการติดต่อบริษัทฯ
ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่กำหนดไว้ในประกาศฯ นี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ผ่านช่องทาง ดังนี้
- บริษัท ซี.พี.ฟาซิลิตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)
อีเมล: | dpo@cpfm.co.th |
สถานที่ติดต่อ: | เลขที่ 3 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์ 2 ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400 |
เบอร์โทรศัพท์: | 02 642 1199 ต่อ 109 |
9.การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้
บริษัทฯ อาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ที่สำคัญใด ๆ พร้อมกับประกาศฯ ฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นระยะ ๆ
ให้ประกาศฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565